tag:blogger.com,1999:blog-55283309349895369252024-03-12T18:57:18.687-07:00ictกับเศรษฐกิจพอเพียงศิริกาน เคร่งครัดhttp://www.blogger.com/profile/10169050933048130816noreply@blogger.comBlogger2125tag:blogger.com,1999:blog-5528330934989536925.post-31787936671698784492013-01-17T00:01:00.000-08:002013-01-17T00:01:38.816-08:00ict สู่อาเซียน<div style="background-color: white; border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; color: black; overflow: hidden; text-align: left; text-decoration: none;">
วรพัฒน์ ทิวถนอม รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงานประชุมวิชาการโครงการส่งเสริมการทาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง “ส่งเสริม e-Commerce ไทยก้าวไกลสู่ AEC 2015″ ว่า ในปี พ.ศ.2558 หรือ ในปี ค.ศ. 2015 ทั้ง10 ชาติอาเซียนจะมีการรวมตัวกัน ภายใต้ชื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economics Community : AEC) เพื่อสร้างตลาดรวมทั้งฐานการผลิตเดียวกัน และแสวงหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน ตลอดจนสร้างอานาจต่อรองต่างๆ กับคู่ค้า ในภูมิภาคอื่นๆ<br />
โดยได้มีการกำหนดให้แต่ละประเทศมีจุดเด่นด้านต่างๆ เช่น ประเทศพม่า มีจุดเด่นด้านสาขาเกษตรและประมง ประเทศมาเลเซีย มีจุดเด่นด้านสาขาผลิตภัณฑ์ยาง และสาขาสิ่งทอประเทศสิงคโปร์ มีจุดเด่นด้านสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ และสาขาสุขภาพ ส่วนประเทศไทยมีจุดเด่นด้านสาขาการท่องเที่ยว และสาขาการบิน ประเทศไทยนั้น มีภูมิประเทศอยู่ตรงกลางของอาเซียน จึงเอื้อต่อการเป็นศูนย์กลางโครงข่ายเชื่อมโยงคมนาคมด้านต่างๆ อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีโอกาสในการส่งเสริมอุตสาหกรรมอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย หากมีการพัฒนาโดยหน่วยงานภาครัฐ เช่น การจัดให้มีสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างทั่วถึง มีระบบการเงินการธนาคารที่เข้มแข็ง สนับสนุนและอานวยความสะดวกให้กับภาคเอกชนตั้งแต่การเป็นฐานการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าเกษตร และการบริการไปจนถึงการตลาด เพื่อให้เกิดการค้าขายอย่างครบวงจรเป็นระบบและต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมา หน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงานได้ดาเนินการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตลอด แต่สิ่งสาคัญ คือ ผู้ประกอบการที่อยู่ในแต่ละอุตสาหกรรมซึ่งเป็นแหล่งรายได้สาคัญของประเทศที่สามารถสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศคิดเป็นมูลค่ากว่า 3.7 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 38 ของจีดีพี จากจานวนSMEs ที่มีมากถึง 2.9 ล้านราย และจากการศึกษาพบว่า ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มีความต้องการในการเข้าถึงตลาดและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มาช่วยในการพัฒนาศักยภาพให้กับธุรกิจ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน<img height="463" id="il_fi" src="http://hilight.kapook.com/img_cms2/news_6/asean1.jpg" style="padding-bottom: 8px; padding-right: 8px; padding-top: 8px;" width="500" /><br />
สมใจ ประเสริฐจีรังกุล ผู้อานวยการสานักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สานักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า ในแผนงานการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้ให้ความสาคัญกับการพัฒนาด้าน e-Commerce โดยบรรจุเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานดังกล่าวซึ่งจากการสารวจสถานภาพการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย พ.ศ. 2554 ของสานักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า มูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น จากปีแรกที่ทาการสารวจ คือ ปี พ.ศ. 2550 ที่มีมูลค่าขายรวม 305,159 ล้านบาท มาเป็น608,587 ล้านบาท ในการสารวจรอบปี พ.ศ. 2553 ซึ่งพบว่ามีมูลค่าสูงขึ้นถึงร้อยละ 199.432 หรือประมาณ 2 เท่าตัว<br />
ดังนั้น จึงได้มีการดาเนินการโครงการส่งเสริมการทาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อศึกษาวิเคราะห์อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการทาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยได้มีการจัดประชุมแบบเจาะจงกลุ่มเปูาหมายเพื่อรวบรวมข้อมูลมาจัดทาเป็นแนวทางในการส่งเสริมการทาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการทาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 5 อันดับแรก คือ1. อุตสาหกรรมแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ 2. อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอินเทอร์เน็ต 3.อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว 4. อุตสาหกรรมบริการด้านสุขภาพ และ 5. อุตสาหกรรมบริการด้านการศึกษา<br />
นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานประชุมวิชาการโครงการส่งเสริมการทาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ในหัวข้อ “ส่งเสริม e-Commerce ไทยก้าวไกลสู่ AEC 2015″ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และผู้สนใจทั่วไปในการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี พ.ศ.2558 รวมทั้งเพื่อร่วมวิเคราะห์ถึงแนวโน้มของธุรกิจ e-Commerce ไทย ในการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ.2558 เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการทาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการและผู้สนใจทั่วไป รวมทั้งเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้มีการนาข้อมูลไปใช้ในการสนับสนุนการดาเนินงานของภาคธุรกิจต่อไป<br />
<br /><img height="480" id="il_fi" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh5ZP_fjNpSPPDCUReEHAKFg4JTE5TVlcXItLeSi23D2GkQTBfVoWDBwSZRsHaQzt81hmrKF3pqCFEjtGE0QCIb1rTPwjrvTJjsFIbjaRO6-l4PkbaR_S31bOtZZb7WayKKJYC-HkmyGpo/s1600/ICT%20Logo2.jpg" style="padding-bottom: 8px; padding-right: 8px; padding-top: 8px;" width="640" /><br />อ่านต่อ: <a href="http://www.thai-aec.com/500#ixzz2IDTwr3sp" style="color: #003399;">http://www.thai-aec.com/500#ixzz2IDTwr3sp</a></div>
ศิริกาน เคร่งครัดhttp://www.blogger.com/profile/10169050933048130816noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5528330934989536925.post-23939150742413070222013-01-10T00:30:00.001-08:002013-01-10T00:30:22.160-08:00ictกับเศรษฐกิจพอเพียงICT เป็นคำย่อ มาจากคำเต็มว่า "Information and Communications Technology" ซึ่งแปลเป็นไทยว่า "เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร" <br /><a href="http://www.bloggang.com/data/s/supojjj/picture/1288706375.jpg" target="_blank"><img border="0" height="315" src="http://www.bloggang.com/data/supojjj/picture/1288706375.jpg" width="450" /></a><br /><br />โดยทั่วไปคำว่า ICT มักถูกใช้เป็นคำพ้องความหมายกับคำว่า IT: Information Technology (เทคโนโลยีสารสนเทศ) แต่โดยปกติจะเป็นคำทั่วไปที่เน้นบทบาทของการสื่อสาร (ผ่านทางสายโทรศัพท์และสัญญาณไร้สาย) ในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ โดย ICT ประกอบด้วยวิธีการทางเทคนิคทั้งมวลที่ใช้ในการจัดการสารสนเทศและช่วยเหลือการสื่อสาร ซึ่งรวมถึงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครือข่าย รวมทั้งซอฟต์แวร์ที่จำเป็น<br />หรืออีกนัยหนึ่ง ICT ประกอบด้วย IT, การสื่อสารผ่านทางระบบโทรศัพท์, สื่อกระจายสัญญาณ, รวมไปถึงการประมวลผลและการส่งสัญญาณภาพและเสียง<br /><a href="http://www.bloggang.com/data/s/supojjj/picture/1288706404.gif" target="_blank"><img border="0" height="311" src="http://www.bloggang.com/data/supojjj/picture/1288706404.gif" width="450" /></a><br />ในบางเอกสารอาจมีนิยามที่ลงรายละเอียดมากกว่า เช่น ICT คือ การผสมผสานเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ากับระบบสื่อสารโทรคมนาคมที่ครอบคลุมระบบสื่อสาร ได้แก่ วิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์ โทรสาร รวมทั้งเครื่องมือสื่อสารอื่นๆ เข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ ฐานข้อมูล และบริการสารสนเทศ ตลอดจนระบบเครือข่ายโทรคมนาคมจำนวนมากที่เชื่อมโยงติดต่อกัน และใช้ร่วมกันได้<!-- End main--> <br />
<br />
<br />
<br />
<br />
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้พัฒนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อที่จะให้พสกนิกรชาวไทยได้เข้าถึงทางสายกลางของชีวิตและเพื่อคงไว้ซึ่งทฤษฏีของการพัฒนาที่ยั่งยืน ทฤษฎีนี้เป็นพื้นฐานของการดำรงชีวิตซึ่งอยู่ระหว่าง สังคมระดับท้องถิ่นและตลอดระดับสากล จุดเด่นของแนวปรัชญานี้คือ แนวทางที่สมดุล โดยชาติสามารถทันสมัย และก้าวสู่ความเป็นสากลได้ โดยปราศจากการต่อต้านกระแส<a href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%8C" title="โลกาภิวัตน์">โลกาภิวัตน์</a> และการอยู่รวมกันของทุกคนในสังคม<br />
หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมีความสำคัญในช่วงปี พ.ศ. 2540 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทย ต้องประสบปัญหาภาวะทางเศรษฐกิจ และ ต้องการรักษาความมั่นคงและเสถียรภาพ เพื่อที่จะยืนหยัดในการไม่พึ่งพาผู้อื่น และ พัฒนานโยบายที่สำคัญเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ<br />
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริว่า <i>มันไม่ได้มีความจำเป็นที่เราจะกลายเป็น<a href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88" title="ประเทศอุตสาหกรรมใหม่">ประเทศอุตสาหกรรมใหม่</a></i> พระองค์ได้ทรงอธิบายว่า ความพอเพียงและการพึ่งตนเอง คือ ทางสายกลางที่จะป้องกันการเปลี่ยนแปลงความไม่มั่นคงของประเทศได้<br />
เศรษฐกิจพอเพียงเชื่อว่าจะสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางสังคมของชมชุนให้ดีขึ้นโดยมีปัจจัย 2 อย่างคือ<br />
<ol>
<li>การผลิตจะต้องมีความสัมพันธ์กันระหว่าง ปริมาณ<a class="new" href="http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95&action=edit&redlink=1" title="ผลผลิต (หน้านี้ไม่มี)">ผลผลิต</a>และ<a href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%A0%E0%B8%84" title="การบริโภค">การบริโภค</a></li>
<li>ชุมชนจะต้องมีความสามารถในการจัดการ<a href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3" title="ทรัพยากร">ทรัพยากร</a>ของตนเอง</li>
</ol>
ผลที่เกิดขึ้นคือ<br />
<ul>
<li>เศรษฐกิจพอเพียงสามารถที่จะคงไว้ซึ่งขนาดของประชากรที่ได้สัดส่วน</li>
<li>ใช้เทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม</li>
<li>รักษาสมดุลของ<a href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A8" title="ระบบนิเวศ">ระบบนิเวศ</a> และปราศจากการแทรกแซงจากปัจจัยภายนอก</li>
</ul>
<br />
<br />ศิริกาน เคร่งครัดhttp://www.blogger.com/profile/10169050933048130816noreply@blogger.com0